พืชพรรณชนิดต่างๆ (Vegetation)
คำว่าพืชพรรณ (Vegetation) หมายถึงอะไร
พืชพรรณเป็นคำที่ใช้เรียกรวมพืชชนิดต่างๆที่ปกคลุมพื้นที่ๆหนึ่ง หรืออาจจะหมายถึงพืชโดยรวมที่อยู่บนพื้นผิวของโลกทั้งโลกก็ได้
พืชพรรณตามธรรมชาติ
(natural
vegetation) หมายถึงพืชที่อยู่ในพื้นที่หนึ่งเองอยู่แล้วโดยธรรมชาติ
และไม่ได้มีกิจกรรมของมนุษย์เข้าไปแทรกแซง
เนื่องจากโลกเราเหลือพืชพรรณตามธรรมชาติเพียงน้อยนิดที่ยังคงไม่ถูกมนุษย์เข้าไปแทรกแซง
เราจึงใช้คำว่า “พืชพรรณตามธรรมชาติ” เพื่อหมายถึงพืชพรรณทุกชนิดที่ไม่ได้ถูกจัดการหรือดูแลโดยมนุษย์หรือกิจกรรมทางการเกษตร
โลกเรามีเขตพืชพรรณ
(vegetation
region) ทั้งหมดสี่ประเภท
ซึ่งแบ่งจากพืชพรรณที่พบเห็นได้มากในเขตนั้นๆ เขตพืชพรรณต่างๆคือ ป่าไม้ (forest) ทุ่งหญ้า (grassland) ทะเลทราย (desert) และทุนดร้า (tundra)
ป่าไม้ (forest) คืออะไร
ป่าไม้คือบริเวณกว้างใหญ่ที่ปกคลุมไปด้วยต้นไม้หนาแน่น
โดยที่ใบของต้นให้ร่มเงากับพื้นดินเกือบหมด
มีต้นไม้สี่ประเภทใหญ่ๆที่สามารถพบเห็นได้ในเขตป่าไม้ คือ
ไม้ใบใหญ่ (broadleaf)
ไม้ผลัดใบ (deciduous)
ไม้ไม่ผลัดใบ (evergreen)
ไม้สน (coniferous)
ต้นไม้บางชนิดอาจถูกจัดไว้ในมากกว่าหนึ่งประเภท
ยกตัวอย่างเช่นต้นเมเปิ้ล (Maple tree) ซึ่งเป็นทั้งไม้ใบใหญ่และไม้ผลัดใบ
ไม้ใบใหญ่ (broadleaf) เป็นต้นไม้ที่มีใบแบนใหญ่
ซึ่งต้นไม้ประเภทนี้เป็นประเภทที่มีหลากหลายสายพันธุ์มากที่สุดในโลก ตัวอย่างคือ
ต้นแอช (Ash) ต้นเอล์ม (Elm) ต้นเมเปิ้ล (Maple) ต้นโอ๊ค (Oak) ต้นหลิว (Willow) ต้นมะฮอกกานี (Mahogany)
ต้นโกงกาง (Mangrove) ต้นบีช และต้นคอตตอนวู๊ด (Cottonwood) ต้นไม้เหล่านี้สามารถพบเห็นได้ทางตอนใต้ของประเทศแคนาดา
ตอนใต้ของไซบีเรีย และในบางบริเวณทางตะวันออกของสหรัฐอเมริกา
ไม้ผลัดใบ (deciduous) จะผลัดใบในบางช่วงของปี
ซึ่งโดยปรกติแล้วจะเป็นในช่วงฤดูใบไม้ร่วง ตัวอย่างของต้นไม้ประเภทนี้คือ
ต้นแอสเพน (Aspen) ต้นเมเปิ้ล (Maple) ต้นโอ๊ค (Oak) ต้นแอช (Ash) ต้นบีช ต้นฮิคเกอรี (Hickory) และต้นเบิร์ช (Birch) ใบของต้นไม้ผลัดใบจะเปลี่ยนเป็นสีสันสดใส
อย่างสีแดง ส้ม และเหลือง ก่อนที่จะร่วงลงสู่พื้นดิน
ไม้ไม่ผลัดใบ (evergreen) เป็นต้นไม้ที่มีใบขึ้นมาทดแทนและเป็นสีเขียวอยู่ตลอดปี
ไม้ไม่ผลัดใบมีมากถึงประมาณ 500 สายพันธุ์
ตัวอย่างของไม้ไม่ผลัดใบคือ ต้นเฮมล๊อค (Hemlock) ต้นสน (pine) ต้นสนเรดวูด (redwood)
และต้นซีดาร์ (Cedar)
พืชพรรณธรรมชาติของโลก
โดยทั่วไปลักษณะพืชพรรณธรรมชาติของโลกจะมีความแตกต่างกัน
แต่ขึ้นอยู่กับปัจจัยการควบคุมหลายอย่าง เช่น
ลักษณะภูมิประเทศ ลักษณะภูมิอากาศ
ลักษณะและสภาพดิน เป็นต้น
โดยจะมีการจำแนกเขตพืชพรรณธรรมชาติของโลก ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
-เขตทุ่งน้ำแข็ง เป็นเขตที่ไม่มีพืชชนิดใดขึ้น เนื่องจากมีอากาศหนาวเย็น มีหิมะปกคลุมตลอดทั้งปี ได้แก่ ขั้วโลกเหนือ
ขั้วโลกใต้ และเกาะกรีนแลนด์
-เขตภูเขาสูงและทุนดรา
ซึ่งจะมีพืชพรรณธรรมชาติที่พบ เช่น
มอส สาหร่าย ตะไคร่น้ำ และไลเคน เป็นพืชที่สามารถพบได้ในบริเวณที่มีอากาศหนาวจัดๆ มีน้ำแข็งปกคลุมตลอดเวลา
ส่วนฤดูร้อนจะมีระยะเวลาสั้น ได้แก่ ภูเขาสูง เช่น เทือกเขาแอนดีส
เทือกเขาหิมาลัย บริเวณชายฝั่งมหาสมุทรอาร์กติก
และเกาะกรีนแลนด์ เป็นต้น
-เขตป่าสนตอนเหนือหรือป่าไทกา โดยจะมีพืชพรรณธรรมชาติที่พบ
ได้แก่ ป่าสน และป่าไทกา ซึ่งเป็นพืชที่อยู่ในเขตที่มีละติจูดสูงในฤดูหนาว
หรือมีอากาศหนาวจัดและยาวนาน ส่วนฤดูร้อนจะมีระยะเวลาสั้น
มีอุณหภูมิไม่สูงมากนัก ส่วนพื้นดินในฤดูหนาวนั้นจะปกคลุมไปด้วยหิมะ
และจะมีน้ำค้างแข็งฝังตัวอยู่ในดิน
-เขตป่าเขตอบอุ่น พืชพรรณธรรมชาติที่พบในเขตนี้ ส่วนใหญ่จะอยู่ในเขตละติจูดกลางอยู่ใต้แนวเขตป่าสน
เพราะจะกระจัดกระจายกันเป็นหย่อมๆ
-เขตป่าเขตร้อน ซึ่งพืชพรรณธรรมชาติในเขตนี้ส่วนใหญ่จะเป็นป่าไม้ไม่ผลัดใบและป่าไม้ผลัดใบ
ซึ่งประกอบไปด้วยพันธุ์ไม้หลายชนิด แต่จะพบได้มากในบริเวณเส้นศูนย์สูตร
เพราะจะมีอุณหภูมิสูงตลอดปีและจะมีฝนตกชุก
-เขตทุ่งหญ้าอบอุ่น
โดยพืชพรรณธรรมชาติในเขตนี้ส่วนใหญ่จะเป็นไม้พุ่มเตี้ย และทุ่งหญ้าสั้น ซึ่งจะพบในบริเวณที่มีฝนตกไม่มาก
และไม่แห้งจนถึงกับเป็นทะเลทราย ส่วนใหญ่จะอยู่ในละติจูดกลาง หรือในเขตทุ่งหญ้าอบอุ่นที่สำคัญ
-เขตทุ่งหญ้าเขตร้อน หรือทุ่งหญ้าสะวันนา
ซึ่งพืชพรรณธรรมชาติในเขตนี้ ส่วนใหญ่จะเป็นทุ่งหญ้าและพืชทนแล้ง
โดยจะพบในบริเวณที่มีฝนตกชุก ในฤดูร้อน และอากาศแห้งแล้งในฤดูหนาว
-เขตทะเลทราย ซึ่งพืชพรรณธรรมชาติที่พบในเขตนี้ ส่วนใหญ่จะเป็นพืชที่สามารถเก็บน้ำไว้ในลำต้นได้มาก
จึงมีส่วนที่ช่วยป้องกันการระเหย
ขาดไปนีดดดนุง
ตอบลบ